25 years (^______^)
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557
How long I have to walk to get closer (ไกลแค่ไหน...คือใกล้)
I'll try to do in different ways to make you love me
try everyday, give everything whatever you want
walk in the way, the destination is your heart
think and hope to give this truly love to you
but why i'm walking on this way for so long
but why this way i'm on is never end
-----------
-------
I wanna know what can I do
How long I have to walk to get closer
how long I have to wait until you love me
is there anything to make you love me oh please
please tell me babe. Do i mean anything to you
---------
never wanna give up here but just feeling tired
my heart's still calling your name, it never change
it would be good if you let me know what you want
in all your heart and with reasons, still keep them
but why i'm walking on this way for so long
but why this way i'm on is never end
----------------
--------
I wanna know what can I do
How long I have to walk to get closer
how long I have to wait until you love me
is there anything to make you love me oh please
please tell me babe. Do i mean anything
How long I have to walk to get closer
how long I have to wait until you love me
is there anything to make you love me oh please
please tell me babe. Do i mean anything to you.........
........to you........
วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ใกล้ชิดพระเจ้า
มาย้อนคิดถึงชีวิตของเรา การดำเนินชีวิตของเรากับพระเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เราคิดว่าถ้าเป็นไปได้พระองค์จะทรงรับเราไปเหมือนที่ทรงรับเอโนคหรือไม่ ผมไม่ได้พูดถึงการทำดีมากๆเพื่อจะรับความรอด แต่กำลังพูดถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง สดชื่น หอมหวานดี หรือเป็นไปตามความเคยชิน แห้งแล้ง เย็นชา
ขอให้ชีวิตของเอโนคหนุนใจเราที่จะดำเนินชีวิตใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นทุกวัน และวันนี้ลองสำรวจดูว่ามีสิ่งใดหรือไม่ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นทำให้เราไม่อยากเข้าใกล้พระองค์ ขอพระเจ้าช่วยให้เราสลัดสิ่งนั้นให้หลุดไปจากชีวิตของเราให้ได้ แล้วท่านจะพบว่า การใกล้ชิดกับพระเจ้า คือสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง
ข้อคิด :พระคัมภีร์บรรยายว่าเอโนคดำเนินกับพระเจ้าสามร้อยปีแล้วพระเจ้าทรงรับท่านไป หมายความว่าท่านไม่ต้องผ่านความตาย แต่ท่านถูกรับให้ไปอยู่กับพระเจ้าเลย โอ้ ชีวิตของเอโนคช่างเป็นชีวิตที่สุดแสนอัศจรรย์จริงๆ
คำอธิษฐาน :พระบิดาที่รัก ลูกปรารถนาที่จะใกล้ชิดกับพระองค์ให้มากยิ่งขึ้น เหมือนเอโนคที่ดำเนินชีวิตใกล้ชิดพระองค์เสมอ ขอพระเจ้าช่วยที่จะไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นความสัมพันธ์นี้ได้ลูกขอกำลังจากพระองค์ อาเมน
ใจกรุณา
ในฐานะบุตรที่รักของพระเจ้า คุณลักษณะเช่นนี้เองที่ควรอยู่ในตัวเราด้วยเช่นเดียวกัน เราจะเรียกตนเองว่าเป็นลูกของพระเจ้าได้อย่างไรถ้าเรายังขาดใจกรุณาต่อผู้อื่น เราจะยังคงกล่าวโทษพี่น้องของเราได้อยู่อีกหรือในขณะที่เราเองก็ได้รับการยกโทษจากพระบิดา
บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุขเพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ (มัทธิว 5:7) จงดูแบบอย่างของพระคริสต์ที่แม้ทรงถูกตรึงที่บนกางเขน ทรงตรัสว่า “ขอโปรดอภัยโทษเขา เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร” (ลูกา 23:34) ดังนั้นวันนี้ขอให้ทุกถ้อยคำที่เราจะเปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความกรุณา คนเช่นนี้แหละที่จะเป็นสุขเพราะเขาจะได้รับกรุณากลับคืนมา
ข้อพระคัมภีร์ : (มัทธิว 5:7) บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุขเพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ, (ลูกา 23:34) พระเยซูตรัสว่า "พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร" แล้วพวกเขาก็เอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน
คำอธิษฐาน : พระบิดาที่รัก ขอให้หัวใจของลูกเต็มไปด้วยความกรุณาอย่างที่พระองค์ทรงมีพระกรุณาต่อลูก ให้ลูกรักคนอื่นแม้คนนั้นจะทำให้ลูกต้องผิดหวังและเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า ลูกขอกำลังจากพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน
วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
แบ่งปันพระเมตตากรุณาของพระเจ้าต่อโลกนี้
ให้เรานึกถึงสวรรค์…เพราะสิ่งเดียวที่เราจะสามารถนําไปด้วยได้นั้น มีเพียงผู้คนที่เรานํามาถึงพระคริสต์และน้องเลี้ยงของเรา
ในปัจจุบันคนในวัฒนธรรมของเรามักจะชอบกล่าวว่า “ฉันไม่อยากสุงสิงกับคนบางประเภทเพราะวิถีชีวิตของเขา” แต่นั่นไม่ใช่สิ่งพระเยซูคริสต์ทรงกระทํา (ลูกา 15.1-2)
มีความปีติยินดียิ่งในสวรรค์สําหรับคนเพียงคนเดียวกลับใจใหม่ ถ้าเราออกไปประกาศพระกิตติคุณแก่คนที่ยังไม่เคยได้ยินได้เรื่องราวข่าวประเสริฐ คนที่ปรารถนาจะได้ยินว่ามีคนพร้อมที่จะอภัยให้แก่เขา และเราจะได้ยินดีเหมือนเหล่าทูตสวรรค์นั้น ลองคิดถึงเรื่องสวรรค์ดูให้ดี ทั้งทรัพย์สินเงินทอง บ้านหรือรถยนต์ เราก็ไม่สามารถนําไปด้วยได้ มีแต่คนที่เรานํามารู้จักกับพระเยซูคริสต์และเหล่าน้องเลี้ยงของเราเท่านั้นที่ เราสามารถพาไปด้วยได้ อัครฑูตเปาโลเขียนในพระธรรม 1 เธสะโลนิกา 2.19-20 “เพราะอะไรเล่าจะเป็นความหวังหรือความชื่นชมยินดี หรือสิ่งภูมิใจ จําเพาะ พระพักตร์พระเยซูคริสตเจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา ก็มิใช่ท่านทั้งหลาย ดอกหรือ เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นศักดิ์ศรีและความชื่นชมยินดีของเรา” อัครฑูตเปาโลกล่าวว่าคนเหล่านั้นเป็นรางวัลของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านได้ไปสวรรค์แล้วท่านก็จะร่วมเกษมสําราญกับคนเหล่านั้น ที่นั่น เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เราคิดถึงและจดจ่อให้มาก เช่นเดียวกันกับที่อัครฑูตเปาโลกล่าว 1 ทิโมธี 2.1 “เหตุฉะนั้นก่อนสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลายให้วิงวอนอธิษฐานทูลขอ และ ขอบพระคุณเพื่อคนทั้งปวง”
จงระลึกถึงผู้คนที่ยังไม่เคยรู้จักกับพระเจ้า อธิษฐานเพื่อเขาและร้องทูลต่อพระเจ้าให้พระเมตตาคุณของพระองค์หลั่งไหลลงมาปกคลุมคนเหล่านั้นไว้และอธิษฐานทูลขอโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องข่าวประเสริฐแก่เขา จงอธิษฐานเพื่อคนทางตะวันออกที่เผชิญสถานการณ์ความไม่สงบและความวุ่นวายมากมาย อธิษฐานถึงพระเจ้าที่คนเหล่านั้นจะได้พบกับองค์สันติราช พระเจ้าของเรา ที่พระองค์จะทรงปรากฏแก่เขาด้วยนิมิตและด้วยความฝันและเขาจะได้พบกับพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ด้วยเราร่วมกัน เราจะอธิษฐานเพื่อคนเป็นล้านล้านคนในโลกนี้ที่จะมารู้จักกับพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของเขา ผู้ที่พระเจ้าส่งมาเพื่ออภัยความบาปทั้งสิ้นของพวกเขา
GBU
การตัดสินใจที่สําคัญมากในชีวิต
“เราเป็นผู้กําหนดชีวิตของเราเอง” เราเคยได้ยินประโยคนี้บ่อย ๆ ใช่ไหม แต่ว่ามีอะไรที่มากกว่าสติปัญญาอันล้ําลึกจากประโยคนี้ อันดับแรกก็คือว่าประโยคนี้กําลังบอกเราว่าชีวิตนั้นมีหลายทางเลือกให้ต้องตัดสินใจ เราต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจหรือต้องเลือกอะไรบางอย่างทุกวัน บางทีเราก็ตัดสินใจจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือจากความช่วยเหลือของคนอื่น แต่เราก็มีเรื่องให้ตัดสินใจทุก ๆ วัน บางเรื่องอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่โต บางเรื่องก็เล็กน้อย บางเรื่องก็ไม่สลักสําคัญอะไรแต่บางเรื่องก็ยิ่งใหญ่ยิ่งยวด กระนั้นการตัดสินบางเรื่องก็เหมือนเรื่องไกลตัวบางเรื่องใกล้ตัวและเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
อันดับต่อมา ประโยคนี้กําลังกล่าวกับเราว่าเราจําเป็นต้องรับผิดชอบกับทุก ๆ การตัดสินใจของเราเอง ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะสําคัญมากเพียงใดก็ตาม การตัดสินใจทุกการตัดสินใจมีผลกระทบต่อชีวิตของเราเสมอ ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกที่จะรับประทานขนมหวานและช็อคโกแล็ตเป็นเวลานาน อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกคือการมีฟันผุ หรือผลกระทบร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง หรือน้ําตาลในเลือดสูง เราไม่สามารถโทษใครได้ถึงการตัดสินใจที่เราได้เลือกทําลงไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ค่อยฉลาดมากนัก
ในทํานองเดียวกัน เรื่องนี้ก็คล้องจองกับการเลือกและตัดสินใจที่จะติดตามและรับใช้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราหรือไม่ พระเยซูคริสต์พระบุตรพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ บางที ชีวิตของโยชูวาผู้นําของชนชาติอิสราเอลในยุคแรก ๆ ในฐานะชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรร อาจจะจุดประกายเราทั้งหลายได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการรรับใช้ โยชูวาผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งพลโยธาของพระเจ้า ท่านได้เขียนไว้ในพระธรรมโยชูวา 24.15 ท่านท้าทายชนชาติชาวอิสราเอลพูดว่า “และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ในท้องถิ่นฟาก ตะวันออกของแม่น้ํายูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่าน อาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า”
โยชูวารู้ดีว่าชนชาตอิสราเอลนั้นเป็นชนชาติที่หัวรั้นและดื้อดึงเพียงใด ดังนั้นเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของหน้าที่การงานของท่าน ท่านได้เสนอให้คนอิสราเอลตัดสินใจว่าเขาจะเลือกพระองค์ใด และเขาจะรับใช้พระ องค์ใดกันแน่ และท่านลงท้ายคําว่า “แต่” ซึ่งเป็นคําที่เน้นย้ําให้ประชาชนได้ยินอย่างชัดเจน ว่าท่านและครอบครัวของท่านจะรับใช้พระเจ้าและสัตย์ซื่อกับพระองค์ในความจงรักภักดีต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์เป็นนิตย์ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “การตัดสินใจที่สําคัญมากในชีวิต”
พระเยซูคริสต์เจ้าของเราตรัสว่า “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหา แผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้” มัทธิว 6.33 พระองค์ทรงรู้จักเราเป็นอย่างดี และพระองค์ทรงเห็นแล้วว่าเราต้องต่อสู้กับการตัดสินใจมากมายในแต่ละวันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าที่จะนุ่งห่ม อาหารที่จะรับประทาน เราจะพูดคุยกับใครได้ในเรื่องที่กําลังกังวลอยู่ เราจะจ่ายตลาดที่ไหน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ว่าชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องของการ กิน ดื่ม รื่นเริง และพักผ่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราก็ยังคงมองหาสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันขาดหายไปในชีวิตของเราอยู่ดี และในช่วงเวลาที่เรากําลังสับสนและมองหาทางออกพระองค์จะทรงเปิดตาใจเราทั้งหลายให้ได้เห็น
และพระองค์ผู้ให้คําปรึกษาจะให้เรารู้แจ้งว่าสิ่งใดสําคัญที่สุดในชีวิตของเรา อีกครั้งหนึ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงให้เราทั้งหลายรู้ว่าเราต้องให้พระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของเราก่อนและดําเนินชีวิตตามครรลองและความชอบธรรมของพระองค์ หากเรากระทําเช่นนี้แล้วพระองค์ก็ทรงสัญญากับเราว่าพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งจําเป็นที่เรายังขาดอยู่ให้ นี่เป็นสาเหตุที่พระคริสต์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทําสิ่งใดไม่ได้เลย ยอห์น 15.5 พระวจนะของพระองค์ชัดเจนว่าหากเราไม่ติดสนิทกับพระองค์ หมายความว่าถ้าเราเลือกที่จะไม่มีสัมพันธ์อันสนิทสนมกับพระองค์ ชีวิตของเราก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่หากเราเลือกที่จะติดสนิทกับพระองค์ เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์และรับใช้พระองค์ เราจะประสบกับการเกิดผลอย่างมากมายและมีชีวิตอันบริบูรณ์ละมีความหมายหากนี่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการให้เกิดกับชีวิตของท่าน ที่จะดําเนินชีวิตอันเกิดผลร้อยเท่าพันทวีและมีชีวิตอันครบบริบูรณ์และมีความหมายซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนก็หมายอยากจะมีชีวิตดังกล่าวเรามีข่าวดีมาบอกว่าท่านสามารถประสบกับชีวิตเช่นนั้นได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกับโยชูวาและชนชาติอิสราเอลผู้ซึ่งเลือกที่จะติดตามพระเจ้าและรับใช้พระองค์ เราเองก็สามารถเลือกที่จะแสวงหาพระเจ้าได้เช่นเดียวกัน และเราเลือกที่จะติดตามและรับใช้พระองค์ได้ด้วยพระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะส่งพระพรนานาประการลงมาท่ามกลางชีวิตของเราหากเราเลือกที่จะแสวงหาพระองค์ก่อน พระองค์ทรงรักเรา และเราจะประกับการอัศจรรย์ใจในประสบการณ์ชีวิตที่ดํารงอยู่ในพระคริสต์
วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
The Eagle and the Kite
AN EAGLE, overwhelmed with sorrow, sat upon the branches of a tree in company with a Kite. “Why,” said the Kite, “do I see you with such a rueful look?’ “I seek,” she replied, “a mate suitable for me, and am not able to find one.” “Take me,” returned the Kite, “I am much stronger than you are.” “Why, are you able to secure the means of living by your plunder?’ “Well, I have often caught and carried away an ostrich in my talons.” The Eagle, persuaded by these words, accepted him as her mate. Shortly after the nuptials, the Eagle said, “Fly off and bring me back the ostrich you promised me.” The Kite, soaring aloft into the air, brought back the shabbiest possible mouse, stinking from the length of time it had lain about the fields. “Is this,” said the Eagle, “the faithful fulfillment of your promise to me?’ The Kite replied, “That I might attain your royal hand, there is nothing that I would not have promised, however much I knew that I must fail in the performance.”
“Promises of a suitor must be taken with caution.”
“Promises of a suitor must be taken with caution.”
(The Bald Man and the Fly)
There was once a Bald Man who sat down after work on a hot summer’s day.
A Fly came up and kept buzzing about his bald, and stinging him from time to time.
The Man aimed a blow at his little enemy, but back palm came on his head instead; again the Fly tormented him, but this time the Man was wiser and said: ”You will only injure yourself if you take notice of despicable enemies”
A Fly came up and kept buzzing about his bald, and stinging him from time to time.
The Man aimed a blow at his little enemy, but back palm came on his head instead; again the Fly tormented him, but this time the Man was wiser and said: ”You will only injure yourself if you take notice of despicable enemies”
The Brightness of the Sun
“When one door closes another door opens, but we so often
look so long and so regretfully upon the closed door,
that we do not see the ones which open for us.
It can be said thatno one prefers a life in darkness to a life with a bright future. Sometimes it is unavoidable that darkness comes into our lives, however,
we know that when tomorrow comes, all darkness will disappear.
With the presence of daylight,
we will gain hope and courage.
The light of the day will make things appear more vividly to us,
we will gain hope and courage.
The light of the day will make things appear more vividly to us,
so we are not frightened by what we cannot see.
We can make the sun rise at night as well.
Just focus the mind at the center of our body
until the light glows within.
until the light glows within.
When this inner sun rises at the center of our body,
we will feel even happier than when we see the sun of the day.
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ขอหั้ยโชคดี-เข้าใจดี
...นานแล้วที่ไม่เห็นรอยยิ้มของเธอ...
ขอบคุณมากนะ ที่รอฉันและเป็นห่วงฉันเสมอมา...
...แต่วันนี้ฉันจะไปและไม่ต้องห่วงอะไรอีก...
...เห็นเธอสุข อยู่กับเขา
ฉันก็ดีจัยด้วย...
...ฝากเพลงนี้หั้ยเธอฟังด้วยนะ...
(((...อยู่กับวันที่เหลือเพียงความเหงา
อยู่กับเหงา ที่เลือนลาง
อยู่กับรัก พลัดพรากความผิดหวัง
ยังมีเหลือแค่ลมหายใจ
ต้องเหงา กับหยดน้ำตา
อีกวันที่มองไม่เห็นใคร
ฝากสายน้ำ ช่วยพัดให้ลอยผ่าน รักที่เธอไม่ต้องการ
รู้ไหม มันต้องเจ็บแค่ไหน
บอกกับเฉยให้รู้ว่าความรัก มันเป็นเพียงแค่ลมปาก
สายนทีช่วยพัดพาไป
เจ็บกับวันที่รักมาจากลา จากน้ำตาแห่งความเสียใจ
ทนอยู่กับวัน กับรักที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่เธอทิ้งไป
ต้องเหงา กับหยดน้ำตา
อีกวันที่มองไม่เห็นใคร
ฝากสายน้ำ ช่วยพัดให้ลอยผ่าน รักที่เธอไม่ต้องการ
สายน้ำตาที่หลั่งรินไหล
บอกกับเฉยให้รู้ว่าความรัก มันเป็นเพียงแค่ลมปาก
สายนทีช่วยพัดพาไป...)))
วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557
Mus zoo koj
Ziag no ces, txog lub caij wb yuav tau ncaim
Thov tig los saib kuv ib muag, ua ntej koj mus
Ib los lug, txawm tsis hais los kuv yeej paub
Txoj kev hlub koj tau muab rau kuv, yuav nyob mus li
Koj yuav mus, yuav mus tiag tiag,
Puas yuav muaj hnub wb rov sib ntsib
Mus zoo koj
Hnub dhau hnub, kuv yuav nco ntsoov txoj kev hlub
Koj tau muab rau kuv ib leeg, mus txog hnub kawg
Koj yuav mus, yuav mus tiag tiag,
Puas yuav muaj hnub wb rov sib ntsib
Kev sib ncaim, tsis yooj yim li lub siab xav
Koj mus ziag no ces ntshe yuav tsis pom koj ntxiv lawm
Mus Zoo Koj
You say good bye
วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557
You shall be together even in the silent memory of God.
You were born together, and together you shall be forevermore.
You shall be together when white wings of death scatter your days.
Aye, you shall be together even in the silent memory of God.
But let there be spaces in your togetherness,
And let the winds of the heavens dance between you.
Love one another but make not a bond of love:
Let it rather be a moving sea between the shores of your souls.
Fill each other's cup but drink not from one cup.
Give one another of your bread but eat not from the same loaf.
Sing and dance together and be joyous, but let each one of you be alone,
Even as the strings of a lute are alone though they quiver with the same music.
Give your hearts, but not into each other's keeping.
For only the hand of Life can contain your hearts.
And stand together, yet not too near together:
For the pillars of the temple stand apart,
And the oak tree and the cypress grow not in each other's shadow.
You shall be together when white wings of death scatter your days.
Aye, you shall be together even in the silent memory of God.
But let there be spaces in your togetherness,
And let the winds of the heavens dance between you.
Love one another but make not a bond of love:
Let it rather be a moving sea between the shores of your souls.
Fill each other's cup but drink not from one cup.
Give one another of your bread but eat not from the same loaf.
Sing and dance together and be joyous, but let each one of you be alone,
Even as the strings of a lute are alone though they quiver with the same music.
Give your hearts, but not into each other's keeping.
For only the hand of Life can contain your hearts.
And stand together, yet not too near together:
For the pillars of the temple stand apart,
And the oak tree and the cypress grow not in each other's shadow.
มิตรภาพ
|
ขนมปังถ้วยเดียว
∵~★.ความรักไม่รู้ความล้ำลึกของตนเอง
จนกว่าจะถึงชั่วโมงของการจากพราก.★~∵
จนกว่าจะถึงชั่วโมงของการจากพราก.★~∵
∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*
แล้วใยยังอยากมีรัก
∵~★.สายลมฯ.★~∵
∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*
∵~★.จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากินจากก้อนเดียวกัน
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
แต่ขอให้แต่ละคน มีโอกาสในการอยู่โดดเดี่ยว
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว
แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น
ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้
และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่าใกล้กันมากนัก
เพราะว่าเสาของวิหาร ก็ยืนอยู่ห่างกัน
และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้ .★~∵
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากินจากก้อนเดียวกัน
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
แต่ขอให้แต่ละคน มีโอกาสในการอยู่โดดเดี่ยว
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว
แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น
ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้
และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่าใกล้กันมากนัก
เพราะว่าเสาของวิหาร ก็ยืนอยู่ห่างกัน
และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้ .★~∵
.
บางส่วนของ"ความรัก"
∵~★. เมื่อความรักร้องเรียกเธอ
จงตามมันไป แม้ว่าทางของมันนั้น
จะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบกายเธอ
จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกราญไปฉะนั้น .★~∵
จงตามมันไป แม้ว่าทางของมันนั้น
จะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบกายเธอ
จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกราญไปฉะนั้น .★~∵
.
∵~★.ความรักจะรวบรวมเธอเข้าดังฝักข้าวโพด
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
และมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอเป็นผงขาว
แล้วก็ขยำเธอจนอ่อนเปียก .★~∵
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
และมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอเป็นผงขาว
แล้วก็ขยำเธอจนอ่อนเปียก .★~∵
.
∵~★.ความรักไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และไม่รับเอาสิ่งใด นอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และไม่ยอมถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก .★~∵
และไม่รับเอาสิ่งใด นอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และไม่ยอมถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก .★~∵
.
∵~★.ความรักไม่มีความปรารถนาสิ่งอื่นใด
นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา
ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้
เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ
ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว
อันเกิดแต่ความอ่อนโยนละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บ
ด้วยความเข้าใจในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหล
ด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้นในอรุณรุ่ง
ด้วยดวงจิตปิติและขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง
และเพ่งพินิจความสุขซาบซึ้ง ของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำ
ด้วยความรู้สึกสำนึกบุญคุณ
และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนา
สำหรับคนรักในดวงใจ และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากเธอ .★~∵
นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา
ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้
เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ
ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว
อันเกิดแต่ความอ่อนโยนละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บ
ด้วยความเข้าใจในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหล
ด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้นในอรุณรุ่ง
ด้วยดวงจิตปิติและขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง
และเพ่งพินิจความสุขซาบซึ้ง ของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำ
ด้วยความรู้สึกสำนึกบุญคุณ
และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนา
สำหรับคนรักในดวงใจ และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากเธอ .★~∵
.
∵~★.จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากินจากก้อนเดียวกัน
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
แต่ขอให้แต่ละคน มีโอกาสในการอยู่โดดเดี่ยว
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว
แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น
ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้
และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่าใกล้กันมากนัก
เพราะว่าเสาของวิหาร ก็ยืนอยู่ห่างกัน
และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้ .★~∵
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากินจากก้อนเดียวกัน
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
แต่ขอให้แต่ละคน มีโอกาสในการอยู่โดดเดี่ยว
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว
แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น
ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้
และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่าใกล้กันมากนัก
เพราะว่าเสาของวิหาร ก็ยืนอยู่ห่างกัน
และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้ .★~∵
.
∵~★.ความรักไม่รู้ความล้ำลึกของตนเอง
จนกว่าจะถึงชั่วโมงของการจากพราก.★~∵
จนกว่าจะถึงชั่วโมงของการจากพราก.★~∵
∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*
แล้วใยยังอยากมีรัก
∵~★.สายลมฯ.★~∵
∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*∵~★.°☆∵。*
วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557
วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
บันทึกหน้าสุดท้าย ...(:_:)
อ่านดูข้อความที่เคยบันทึกไว้ข้างใน สมุดเล่มใหญ่สีเทาอ่านดูเรื่องราวของเรา อ่านทุกคำทุกตอน เหตุการณ์ครั้งก่อนคราวนั้นซึ้งในความผูกพัน รักที่เราให้กัน รักที่เราใฝ่ฝันด้วยกันตลอดมาซึ้งในคำพูดจา สื่อภาษารักกัน รักคือเธอและฉันและความเข้าใจจดจำข้อความขึ้นใจอ่านซ้ำมาซ้ำไป ไม่มีเรื่องใหม่เหมือนเดิมแต่ใจนั้นอยากเขียนเติมจากเรื่องเดิม ว่าเราอยู่เคียงเช่นเก่าคราวนั้นซึ้งในความผูกพัน รักที่เราให้กัน รักที่เราใฝ่ฝันด้วยกันตลอดมาซึ้งในคำพูดจา สื่อภาษารักกัน รักที่ให้เธอนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลงฉันอ่านถึงตอนที่เราต้องจากกันไป เพราะเธอต้องทำตามผู้ใหญ่เราถูกกีดกันแต่ฉันเข้าใจ ปล่อยเธอจากไปพลิกไปหน้าสุดท้าย ทางซ้ายมือมีข้อความพิเศษ...ตีกรอบเอาไว้หกคำนั้นอ่านว่าเราจะรักกันจนตาย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)