“เราเป็นผู้กําหนดชีวิตของเราเอง” เราเคยได้ยินประโยคนี้บ่อย ๆ ใช่ไหม แต่ว่ามีอะไรที่มากกว่าสติปัญญาอันล้ําลึกจากประโยคนี้ อันดับแรกก็คือว่าประโยคนี้กําลังบอกเราว่าชีวิตนั้นมีหลายทางเลือกให้ต้องตัดสินใจ เราต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจหรือต้องเลือกอะไรบางอย่างทุกวัน บางทีเราก็ตัดสินใจจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือจากความช่วยเหลือของคนอื่น แต่เราก็มีเรื่องให้ตัดสินใจทุก ๆ วัน บางเรื่องอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่โต บางเรื่องก็เล็กน้อย บางเรื่องก็ไม่สลักสําคัญอะไรแต่บางเรื่องก็ยิ่งใหญ่ยิ่งยวด กระนั้นการตัดสินบางเรื่องก็เหมือนเรื่องไกลตัวบางเรื่องใกล้ตัวและเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
อันดับต่อมา ประโยคนี้กําลังกล่าวกับเราว่าเราจําเป็นต้องรับผิดชอบกับทุก ๆ การตัดสินใจของเราเอง ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะสําคัญมากเพียงใดก็ตาม การตัดสินใจทุกการตัดสินใจมีผลกระทบต่อชีวิตของเราเสมอ ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกที่จะรับประทานขนมหวานและช็อคโกแล็ตเป็นเวลานาน อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกคือการมีฟันผุ หรือผลกระทบร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง หรือน้ําตาลในเลือดสูง เราไม่สามารถโทษใครได้ถึงการตัดสินใจที่เราได้เลือกทําลงไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ค่อยฉลาดมากนัก
ในทํานองเดียวกัน เรื่องนี้ก็คล้องจองกับการเลือกและตัดสินใจที่จะติดตามและรับใช้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราหรือไม่ พระเยซูคริสต์พระบุตรพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ บางที ชีวิตของโยชูวาผู้นําของชนชาติอิสราเอลในยุคแรก ๆ ในฐานะชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรร อาจจะจุดประกายเราทั้งหลายได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการรรับใช้ โยชูวาผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งพลโยธาของพระเจ้า ท่านได้เขียนไว้ในพระธรรมโยชูวา 24.15 ท่านท้าทายชนชาติชาวอิสราเอลพูดว่า “และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ในท้องถิ่นฟาก ตะวันออกของแม่น้ํายูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่าน อาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า”
โยชูวารู้ดีว่าชนชาตอิสราเอลนั้นเป็นชนชาติที่หัวรั้นและดื้อดึงเพียงใด ดังนั้นเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของหน้าที่การงานของท่าน ท่านได้เสนอให้คนอิสราเอลตัดสินใจว่าเขาจะเลือกพระองค์ใด และเขาจะรับใช้พระ องค์ใดกันแน่ และท่านลงท้ายคําว่า “แต่” ซึ่งเป็นคําที่เน้นย้ําให้ประชาชนได้ยินอย่างชัดเจน ว่าท่านและครอบครัวของท่านจะรับใช้พระเจ้าและสัตย์ซื่อกับพระองค์ในความจงรักภักดีต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์เป็นนิตย์ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “การตัดสินใจที่สําคัญมากในชีวิต”
พระเยซูคริสต์เจ้าของเราตรัสว่า “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหา แผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้” มัทธิว 6.33 พระองค์ทรงรู้จักเราเป็นอย่างดี และพระองค์ทรงเห็นแล้วว่าเราต้องต่อสู้กับการตัดสินใจมากมายในแต่ละวันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าที่จะนุ่งห่ม อาหารที่จะรับประทาน เราจะพูดคุยกับใครได้ในเรื่องที่กําลังกังวลอยู่ เราจะจ่ายตลาดที่ไหน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ว่าชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องของการ กิน ดื่ม รื่นเริง และพักผ่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราก็ยังคงมองหาสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันขาดหายไปในชีวิตของเราอยู่ดี และในช่วงเวลาที่เรากําลังสับสนและมองหาทางออกพระองค์จะทรงเปิดตาใจเราทั้งหลายให้ได้เห็น
และพระองค์ผู้ให้คําปรึกษาจะให้เรารู้แจ้งว่าสิ่งใดสําคัญที่สุดในชีวิตของเรา อีกครั้งหนึ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงให้เราทั้งหลายรู้ว่าเราต้องให้พระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของเราก่อนและดําเนินชีวิตตามครรลองและความชอบธรรมของพระองค์ หากเรากระทําเช่นนี้แล้วพระองค์ก็ทรงสัญญากับเราว่าพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งจําเป็นที่เรายังขาดอยู่ให้ นี่เป็นสาเหตุที่พระคริสต์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทําสิ่งใดไม่ได้เลย ยอห์น 15.5 พระวจนะของพระองค์ชัดเจนว่าหากเราไม่ติดสนิทกับพระองค์ หมายความว่าถ้าเราเลือกที่จะไม่มีสัมพันธ์อันสนิทสนมกับพระองค์ ชีวิตของเราก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่หากเราเลือกที่จะติดสนิทกับพระองค์ เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์และรับใช้พระองค์ เราจะประสบกับการเกิดผลอย่างมากมายและมีชีวิตอันบริบูรณ์ละมีความหมายหากนี่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการให้เกิดกับชีวิตของท่าน ที่จะดําเนินชีวิตอันเกิดผลร้อยเท่าพันทวีและมีชีวิตอันครบบริบูรณ์และมีความหมายซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนก็หมายอยากจะมีชีวิตดังกล่าวเรามีข่าวดีมาบอกว่าท่านสามารถประสบกับชีวิตเช่นนั้นได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกับโยชูวาและชนชาติอิสราเอลผู้ซึ่งเลือกที่จะติดตามพระเจ้าและรับใช้พระองค์ เราเองก็สามารถเลือกที่จะแสวงหาพระเจ้าได้เช่นเดียวกัน และเราเลือกที่จะติดตามและรับใช้พระองค์ได้ด้วยพระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะส่งพระพรนานาประการลงมาท่ามกลางชีวิตของเราหากเราเลือกที่จะแสวงหาพระองค์ก่อน พระองค์ทรงรักเรา และเราจะประกับการอัศจรรย์ใจในประสบการณ์ชีวิตที่ดํารงอยู่ในพระคริสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น