วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

No excuse for your

I could give you anything

Christmas tsis muaj koj (:_:)

 cas kuv nyob ib leeg tsis muaj koj
nws ua rau kuv lub kua mung los
pheej nco txog wb txoj kev sib hlub
seb koj puas nco txog kuv lawm thiab

     kuv tseem niaj hnub nco txog koj xwb
tos ntsoov seb puas hnov koj tsab xov
tus neeg huv hlub tiam sim no koj nyob twg lawm
twb tawm lub xyoo tshiab tuaj lawm thiab

koj zoo tshaj li yav tag los
kuv ua npaug suav pom koj ib muag

kuv xav ntahe tias nws yog tiag
ua cas thaum kuv tsim dheev rov los
tisuas yog kuv lub kua muag ntws xwb

Thov koj rov los

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แหวน นิ้วนาง

เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่า..
ทำไมต้องสวมแหวนแต่งงานที่ "นิ้วนาง" ข้างซ้ายด้วย…….
แล้วทำไมเค้าถึงไม่ใส่ นิ้วโป้ง
นิ้วชี้ นิ้วนาง หรือนิ้วก้อย กันล่ะ  ^____^
วันนี้เรามีแบบทดสอบมาให้เพื่อนๆ พิสูจน์กัน ให้หายข้องใจกับคำถามที่ว่า..
ทำไมต้องสวมแหวนแต่งงานที่ "นิ้วนาง" ข้างซ้าย ได้รู้กัน.
แบบทดสอบพิสูจน์เหตุผลที่ต้องสวมแหวน
 แต่งงานที่ "นิ้วนาง" ข้างซ้าย
แทนที่จะเป็น "โป้ง/ ชี้/กลาง/ ก้อย"
- เพื่อนๆ ลอง แบมือทั้ง 2 ข้าง เข้าหากัน แล้วงอนิ้ว "กลาง" ลง
จากนั้นก็เอาหลังนิ้ว "กลาง" ทั้ง 2 ข้าง มาชนกัน
- ส่วนนิ้วที่เหลือก็คือ โป้ง/ ชี้/ นาง/ ก้อย ทีนี้ก็ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน
- จากนั้นลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายมาชนกัน เมื่อกี้.. ให้ออกจากกัน ทีละนิ้ว
โดยที่ นิ้วกลางยังคงงอแตะกันอยู่
-
 เพื่อนๆ จะพบว่า "นิ้วโป้ง" ก็ปล่อยจากกันได้  "นิ้วชี้"  ก็ปล่อยจากกันได้
"นิ้วก้อย" ก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ แต่… "นิ้วนาง" เนี่ยสิ
กลับ ปล่อย ออกจากกันไม่ได้  คิดจะปล่อยยังงัย ก็ปล่อยไม่ออกจากกันซะที
นั้นเป็นเพราะว่า….
- นิ้วกลาง   แทน ตัวเราเอง
- นิ้วโป้ง     แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
- นิ้วชี้        แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
- นิ้วก้อย    แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง / มีสังคม, ครอบครัว ของตัวเอง
- นิ้วนาง     แทน ?คู่ชีวิต?
ทีนี้ก็เหลือแค่ ?คู่ชีวิต? แล้วล่ะ ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่ til death do us part
นี่แหละจึงเป็นที่มาว่า..
ทำไมถึงต้องสวมแหวนแต่งงานที่ "นิ้วนาง"
ส่วนทำไมถึงต้องเป็นมือข้างซ้ายที่สวมแหวนด้วยนั้น  oO@__@Oo
ก็เพราะหัวใจของคนเราอยู่ข้างซ้าย
และทราบมาว่า นิ้วนางมือซ้าย
นั้นมีเส้นเลือดที่ส่งตรงถึงหัวใจของเรา จึงเชื่อว่า..ถ้าสวมแหวนแต่งงาน
ที่ "นิ้วนาง" ข้างซ้าย
ก็จะทำให้หัวใจของทั้งคู่นั้น อยู่ด้วยกันในใจของ
"กันและกัน" ตลอดไป ………..
โรแมนติกสุดๆ ไปเลย.

❤ I Knew I Loved You ❤

Maybe it's intuition
But some things you just don't question
Like in your eyes, I see my future in an instant
And there it goes,
I think I found my best friend
I know that it might sound
More than a little crazy
But I believe........

I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life

There's just no rhyme or reason
Only the sense of completion
And in your eyes, I see
The missing pieces I'm searching for
I think I've found my way home
I know that it might sound
More than a little crazy
But I believe

I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life

A thousand angels dance around you
I am complete now that I've found you

I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life

I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Paradox - เพียงชายคนนี้...ไม่ใช่ผู้วิเศษ

"❤-สุขก็อยู่กับเราไม่นาน ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน-❤"

        ความรักเป็นสิ่งสวยงาม หลายคนจึงอดหลงใหลได้ปลื้มกับมันไม่ได้…..ในยามที่มันอยู่
เรามักหลอกตัวเองว่า………เพราะเรารักเขามาก เขาคงเห็นความดี ความตั้งใจของเรา
และรักเราตอบบ้าง ไม่มากก็น้อย และเมื่อเขาตอบรับรักของเรา……. ความฟูของหัวใจ
มักทำให้เราก้าวล่วงไป…ถึงการรู้สึกยึดมั่นว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา เป็นเหมือนทรัพย์
สินส่วนตัวทางใจอย่างหนึ่งที่จะต้องอยู่กับเราทุกครั้งที่เราต้องการนานเท่าที่เราปรารถนา
ความรู้สึกอันนี้แหละ  คือจุดเริ่มของความเจ็บปวดทั้งมวล…..เพราะมันฝืนกฏธรรมชาติ
ไม่ได้บอกว่า …… รักต้องลงเอยด้วยความเศร้าเสมอไป .หากแต่เพียงให้ทั้งคู่เข้าใจกัน
จะรักคุณมากขึ้น  หรือหดน้อยถอยลง…..ก็จะเป็นเพราะคนสองคน ไม่ใช่ความต้องการ
ของฝ่ายใด  ฝ่ายนึงเท่านั้น…. ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนเข้าใจยาก แต่ในความซับซ้อนนั้น
มันก็เรียบง่ายอย่าง   ที่เรานึกไม่ถึง .เพราะไม่ว่าสิ่งไหน เรื่องอะไรสารพัด ทุกอย่างล้วน
แต่อยู่ในกฏเดียวกัน มันจะ เกิดขึ้น …. ตั้งอยู่ … แปรสภาพ แล้วก็จบลงไป………..
รักที่สมหวังอยู่กันจนแก่เฒ่า ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้ เพราะวันนึงไม่เราก็เขาก็ต้องไปจากกัน
สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า วันนี้เขาอยู่หรือจากไป สำคัญที่ว่า…ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี … ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึงทุกๆๆวัน
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ถึงวันนี้จะยังร้องไห้ ก็คงไม่กระไร.. เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้
มีวันที่เลวร้ายวันที่สวยงามมีวันที่ว่างเปล่า  สุขก็อยู่กับเราไม่นาน ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน
สุขเคยแวะผ่านมาแล้วก็ไป ทุกข์ก็เป็นเช่นกัน   ร้องไห้แล้วก็อย่าร้องเปล่าๆมองให้เข้าใจ
ได้แต่อวยพรให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น เติบโตขึ้น เข้มแข็ง   แต่อย่าแข็งกร้าวสดใสเสมอ
ขอให้อ่อนโยน แต่เข้มแข็ง และขอให้ วันใหม่ในชีวิตมา….ถึงในอรุณรุ่งของ…วันพรุ่งนี้
ที่มีแต่ความสดใส…วันที่เราจะไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป…