วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การตัดสินใจที่สําคัญมากในชีวิต

“เราเป็นผู้กําหนดชีวิตของเราเอง” เราเคยได้ยินประโยคนี้บ่อย ๆ ใช่ไหม แต่ว่ามีอะไรที่มากกว่าสติปัญญาอันล้ําลึกจากประโยคนี้ อันดับแรกก็คือว่าประโยคนี้กําลังบอกเราว่าชีวิตนั้นมีหลายทางเลือกให้ต้องตัดสินใจ เราต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจหรือต้องเลือกอะไรบางอย่างทุกวัน บางทีเราก็ตัดสินใจจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือจากความช่วยเหลือของคนอื่น แต่เราก็มีเรื่องให้ตัดสินใจทุก ๆ วัน บางเรื่องอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่โต บางเรื่องก็เล็กน้อย บางเรื่องก็ไม่สลักสําคัญอะไรแต่บางเรื่องก็ยิ่งใหญ่ยิ่งยวด กระนั้นการตัดสินบางเรื่องก็เหมือนเรื่องไกลตัวบางเรื่องใกล้ตัวและเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
อันดับต่อมา ประโยคนี้กําลังกล่าวกับเราว่าเราจําเป็นต้องรับผิดชอบกับทุก ๆ การตัดสินใจของเราเอง ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะสําคัญมากเพียงใดก็ตาม การตัดสินใจทุกการตัดสินใจมีผลกระทบต่อชีวิตของเราเสมอ ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกที่จะรับประทานขนมหวานและช็อคโกแล็ตเป็นเวลานาน อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกคือการมีฟันผุ หรือผลกระทบร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง หรือน้ําตาลในเลือดสูง เราไม่สามารถโทษใครได้ถึงการตัดสินใจที่เราได้เลือกทําลงไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ค่อยฉลาดมากนัก
ในทํานองเดียวกัน เรื่องนี้ก็คล้องจองกับการเลือกและตัดสินใจที่จะติดตามและรับใช้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราหรือไม่ พระเยซูคริสต์พระบุตรพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ บางที ชีวิตของโยชูวาผู้นําของชนชาติอิสราเอลในยุคแรก ๆ ในฐานะชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรร อาจจะจุดประกายเราทั้งหลายได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการรรับใช้ โยชูวาผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งพลโยธาของพระเจ้า ท่านได้เขียนไว้ในพระธรรมโยชูวา 24.15 ท่านท้าทายชนชาติชาวอิสราเอลพูดว่า “และ​ถ้า​ท่าน​ไม่​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​ปรนนิบัติ​พระ​เจ้า ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​เลือก​เสีย​ใน​วันนี้​ว่า​ท่าน​จะ​ปรนนิบัติ​ผู้ใด จะ​ปรนนิบัติ​พระ​ซึ่ง​บรรพ​บุรุษ​ของ​ท่าน​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ท้องถิ่น​ฟาก​ ตะวันออก​ของ​แม่น้ํา​ยู​เฟร​ติส หรือ​ของ​คน​อาโมไรต์​ใน​แผ่นดิน​ซึ่ง​ท่าน​ อาศัย​อยู่ แต่​ส่วน​ข้าพเจ้า​และ​ครอบครัว​ของ​ข้าพเจ้า เรา​จะ​ปรนนิบัติ​พระ​เจ้า”
โยชูวารู้ดีว่าชนชาตอิสราเอลนั้นเป็นชนชาติที่หัวรั้นและดื้อดึงเพียงใด ดังนั้นเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของหน้าที่การงานของท่าน ท่านได้เสนอให้คนอิสราเอลตัดสินใจว่าเขาจะเลือกพระองค์ใด และเขาจะรับใช้พระ องค์ใดกันแน่ และท่านลงท้ายคําว่า “แต่” ซึ่งเป็นคําที่เน้นย้ําให้ประชาชนได้ยินอย่างชัดเจน ว่าท่านและครอบครัวของท่านจะรับใช้พระเจ้าและสัตย์ซื่อกับพระองค์ในความจงรักภักดีต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์เป็นนิตย์ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “การตัดสินใจที่สําคัญมากในชีวิต”
พระเยซูคริสต์เจ้าของเราตรัสว่า “แต่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​แสวงหา​ แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระ​องค์​ก่อน แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทรง​เพิ่ม​เติม​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​เหล่า​นี้​ให้” มัทธิว 6.33 พระองค์ทรงรู้จักเราเป็นอย่างดี และพระองค์ทรงเห็นแล้วว่าเราต้องต่อสู้กับการตัดสินใจมากมายในแต่ละวันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าที่จะนุ่งห่ม อาหารที่จะรับประทาน เราจะพูดคุยกับใครได้ในเรื่องที่กําลังกังวลอยู่ เราจะจ่ายตลาดที่ไหน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ว่าชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องของการ กิน ดื่ม รื่นเริง และพักผ่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราก็ยังคงมองหาสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันขาดหายไปในชีวิตของเราอยู่ดี และในช่วงเวลาที่เรากําลังสับสนและมองหาทางออกพระองค์จะทรงเปิดตาใจเราทั้งหลายให้ได้เห็น
และพระองค์ผู้ให้คําปรึกษาจะให้เรารู้แจ้งว่าสิ่งใดสําคัญที่สุดในชีวิตของเรา อีกครั้งหนึ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงให้เราทั้งหลายรู้ว่าเราต้องให้พระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของเราก่อนและดําเนินชีวิตตามครรลองและความชอบธรรมของพระองค์ หากเรากระทําเช่นนี้แล้วพระองค์ก็ทรงสัญญากับเราว่าพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งจําเป็นที่เรายังขาดอยู่ให้ นี่เป็นสาเหตุที่พระคริสต์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า เรา​เป็น​เถา​องุ่น ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​แขนง ผู้​ที่​เข้า​สนิท​อยู่​ใน​เรา​และ​เรา​เข้า​สนิท​อยู่​ใน​เขา ผู้​นั้น​ก็​จะ​เกิดผล​มาก เพราะ​ถ้า​แยก​จาก​เรา​แล้ว​ท่าน​จะ​ทํา​สิ่ง​ใด​ไม่ได้​เลย​ ยอห์น 15.5 พระวจนะของพระองค์ชัดเจนว่าหากเราไม่ติดสนิทกับพระองค์ หมายความว่าถ้าเราเลือกที่จะไม่มีสัมพันธ์อันสนิทสนมกับพระองค์ ชีวิตของเราก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่หากเราเลือกที่จะติดสนิทกับพระองค์ เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์และรับใช้พระองค์ เราจะประสบกับการเกิดผลอย่างมากมายและมีชีวิตอันบริบูรณ์ละมีความหมายหากนี่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการให้เกิดกับชีวิตของท่าน ที่จะดําเนินชีวิตอันเกิดผลร้อยเท่าพันทวีและมีชีวิตอันครบบริบูรณ์และมีความหมายซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนก็หมายอยากจะมีชีวิตดังกล่าวเรามีข่าวดีมาบอกว่าท่านสามารถประสบกับชีวิตเช่นนั้นได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกับโยชูวาและชนชาติอิสราเอลผู้ซึ่งเลือกที่จะติดตามพระเจ้าและรับใช้พระองค์ เราเองก็สามารถเลือกที่จะแสวงหาพระเจ้าได้เช่นเดียวกัน และเราเลือกที่จะติดตามและรับใช้พระองค์ได้ด้วยพระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะส่งพระพรนานาประการลงมาท่ามกลางชีวิตของเราหากเราเลือกที่จะแสวงหาพระองค์ก่อน พระองค์ทรงรักเรา และเราจะประกับการอัศจรรย์ใจในประสบการณ์ชีวิตที่ดํารงอยู่ในพระคริสต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น